การเปรียบเทียบแนวโน้ม Cryptocurrency ที่ดีที่สุดในปี 2564

สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิตอลอย่าง Cryptocurrency ควรจะต้องเริ่มให้ความสนใจกันบ้างแล้วล่ะ เพราะตอนนี้ตลาดสกุลเงินดิจิตอลเริ่มจะเติบโต และเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายๆคนแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจและติดตามเป็นอย่างยิ่ง และต่อจากนี้ธุรกิจนี้ก็มีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสกุลเงินใหม่ๆ เกิดมากขึ้นเรื่อยๆ

นี่เป็นตัวอย่างการเปรียบเทียบ สกุลเงินที่มาแรงและได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ เราจะอธิบายทุกอย่างที่คุณต้องการทราบเกี่ยวกับทุกสกุลเงิน รวมทั้งศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตในอนาคต เพื่อที่คุณจะได้เข้าถึงเงื่อนไข และซื้อขายสกุลเงินได้อย่างง่ายดาย

10 อันดับสกุลเงินที่มาแรงที่สุด ณ ตอนนี้

bitcoin-btcBitcoin (BTC)

เงินดิจิตอลสกุลแรกที่ทำงานบนหลักการของการ BlockChain เพียร์ทูเพียร์ เปิดตลาดครั้งแรก มกราคม 2552 และก็ไม่ต้องสงสัยว่าสกุลเงินตัวนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นสกุลเงินที่นิยมใช้มากที่สุดในโลก และอัตราการใช้ยังเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่าและการซื้อขายยัง มีมูลค่าถึง 10 พันล้าน คลิกที่นี่เพื่ออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bitcoin (BTC)

Ethereum (ETH)Ethereum (ETH)

พระรองแต่ไม่รองใครเเป็นอีกหนึ่งสกุลเงินที่มีหลักการเดียวกับ blockchain จุดเด่นที่พันธะสัญญาดิจิตอลแบบอัจฉริยะ ที่จะช่วยบล็อกความเสี่ยงอัตโนมัติ สกุลเงินของ Ethereum เป็นอีเธอร์ และเปิดตัวกรกฎาคม 2558 โดยนักพัฒนารุ่นใหม่ไฟแรง และเห็นได้ชัดว่ามันจะเป็นสกุลเงินของอนาคตด้วยระบบการทำงานที่สมบูรณ์ คลิกที่นี่เพื่ออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ethereum (ETH)

LiteCoin (LTC)LiteCoin (LTC)

สกุลเงินดิจิตอลที่ติดอันดับหนึ่งในสี่จากบันทึกเงินดิจิตอล สกุลเงินนี้ถูกเปิดตัวในเดือน ตุลาคม 2554  โดยชาร์ลส์ลี มันเป็นเหมือนจากโคลน Bitcoin แต่แตกต่างที่ช่วยให้การทำธุรกรรมได้รวดเร็ว ตัวโพรโทคอลจะแตกต่างกัน ซึ่งช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญทราบว่านี่คือการทำงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดในตอนนี้ตอนนี้ อีกทั้งยังเป็นที่รู้กันว่า มันจะเป็นที่นิยมอย่างมากพอๆกับ Bitcoin ในอนาคตอาจจะพูดได้เลยว่า อ่านไฟล์ของเราแบบเต็มๆสำหรับ LiteCoin คลิกที่นี่

ripple XRPRipple (XRP)

จากที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดเป็นโพรโทคอลที่ถูกเปิดตัวก่อนปี 2555 และถูกตรวจสอบถึงแนวโน้มและอัตราการเติบโตและอีกทั้งความปลอดภัย เงินสกุลนี้มีบริการโอนเงินที่ถูกมากจนเกือบจะฟรีเลยก็ว่าได้ วัตถุประสงค์ของการทำงานของ Ripple คือต้องการแทน Swift ที่มีราคาแพง และใช้เวลาหลายวันในการทำธุรกรรม Ripple ยังมีการทำงานที่รวดเร็วและเข้าถึงเงินได้ง่าย ซึ่งคาดว่าเป็นตัวที่มีเสถียรภาพที่ดี และเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิตอลที่ติดอันดับมีสินทรัพย์สกุลเงินที่ถูกใช้ที่สุดในโลก คลิกที่นี่เพื่อตรวจสอบไฟล์ของเราฉบับเต็ม

dash ไทยDash (DASH)

เป็นสกุลเงินที่ยังไม่เป็นที่รู้จักหรืออาจจะเป็นสกุลเงินดิจิตอลรุ่นแรกๆ และมันถูกเรียกชื่อว่า DarkCoin เป็นสกุลเงินแรกที่เปิดตัวแบบไม่ระบุชื่อ วันนี้ Dash เป็นรุ่นอัพเกรดที่มีหลักทรัพย์มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ มูลค่าของมันเริ่มเพิ่มขึ้นแบบไต่เต้า ในปี 2560 ตามก้น Bitcoin ไปแต่ก็ไม่ได้เป็นที่นิยมหรือประสบความสำเร็จเหมือนอย่าง Bitcoin แต่ก็ยังคงทำให้นักลงทุนยิ้มออกได้ไม่น้อยเลยที่เดียว เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dash คลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียด

monero-xmrMonero (XMR)

สกุลเงินดิจิตอลที่มีหลักการแบบไม่ระบุตัวตนใช้โพรโทคอ CryptoNote ที่ทำธุรกรรมอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เป็นการ BlockChain แบบเต็มพิกัดจนถึง Z นี่ไม่ใช่รุ่น Bitcoin เหมือนอย่างเช่นส่วนใหญ่ จุดแข็งคือเครือข่ายสามารถทนต่อการวิเคราะห์ของ blockchain มี PoW คุ้มค่า และตัว Monero นี้ยังมีผู้สังเกตการณ์จำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นเก็งในอนาคตสำหรับบรรดาสกุลเงินดิจิตอลทั้งหลายอีกด้วยคลิกที่นี่เพื่ออ่านฉบับเต็ม

ethereum-classic-etcEthereum Classic (ETC)

Ethereum Classic เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ขโมยเงินมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ใน Ethereum จนเหล่าผู้ผลิตต้องตัดสินใจกระบวนการ « hard fork » ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนการ blockchain เดิม และคนที่เคยต่อต้าน « hard fork » ตัดสินใจที่จะดำเนินการต่อจากห่วงโซ่เดิมและแบ่ง Ethereum แบ่งออกเป็นสองส่วน  Ethereum Classic ไม่ถือว่าเป็นเงินดิจิตอลแห่งอนาคต แต่แน่นอนว่ามัน จะไม่มีการปรับเปลี่ยนเป็น blockchain อย่างแน่นอน รายละเอียด คลิกที่นี่

maidsafe-MAIDMaidSafeCoin (MAID)

ในการจัดอันดับทุนสูงสุด 15 อันดับแรก MaidSafeCoin ก็ติดอันดับมากับเขาด้วยด้วยแนวคิดและความทะเยอทะยานที่มุ่งจะสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่กระจายอำนาจและมีความเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์ในตลาด สกุลเงินนี้ถือว่าเป็นหนึ่งสกุลเงินที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องของความปลอดภัย ทั้งการโอนเงินและการทำธุรกรรม และอยู่เหนือการควบคุมของมนุษย์ การบริหารจัดการโดยทีมงานที่มีชื่อเสียง ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนจำนวนมากเชื่อว่า เครือข่ายและสกุลเงินนี้มีอนาคตที่สดใส  สามารถอ่าน MaidSafeCoin ฉบับเต็มได้โดยคลิกที่นี่

nem-XEMNEM (XEM)

เป็น cryptocurrency ที่ใช้โปรโตคอล blockchain คล้ายกับสกุลเงินเสมือนจริงมากที่สุดยกเว้นว่าเครือข่ายของ nodes ที่ใช้ในการยืนยันการทำธุรกรรมยังช่วยบริหารและจัดการ การแลกเปลี่ยนข้อความที่เข้ารหัสหรือจองชื่อโดเมนอินเทอร์เน็ต ให้ได้จำนวนหน่วยที่ถูกต้องตามกำหนดตั้งแต่ต้น เป็นสกุลเงินที่ไม่พูดถึงก็ไม่ได้เลยทีเดียว สกุลเงินตัวนี้มี มีหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้ท่านสามารถมองเห็นการเติบโตที่สำคัญของเครือข่ายในปีที่ผ่านมา ดูไฟล์ฉบับเต็มของ NEM โดยคลิกที่นี่

augur-repAugur (REP)

ปิดท้ายด้วย Augur  สกุลเงินดิจิตอลที่มีทำงานในลักษณะที่แตกต่างจากตัวอื่นๆเนื่องจากใช้แนวคิดเรื่อง blockchain เพียงเพื่อจัดระเบียบการคาดการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง ดังนั้นผู้ใช้จะสามารถสร้างการคาดการณ์หรือเดิมพันในเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น เราสามารถวางเดิมพันบนสภาพอากาศ การเลือกตั้ง หรือแน่นอนว่าการแข่งขันกีฬา โดยทำงานบนเงื่อนไขของ blockchain Ethereum augur ดังนั้น การที่เราใส่ในอีเธอร์ ก็จะช่วยให้อัตราการชนะเดิมพัน Augur REP เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากอีกด้วย รายละเอียดอ่านที่นี่

การเข้ารหัสลับสกุลเงินคืออะไร

สกุลเงินเข้ารหัสลับ หรือสกุลเงินดิจิตอล ถือได้ว่าเป็นทางเลือก 100% ของเงินเสมือนจริง ซึ่งแตกต่างจากเงินยูโรหรือเงินดอลลาร์ อย่างที่เห็นได้ชัด และพบคุณจะพบว่ามันไม่จำเป็นจะต้องมีบัตรหรือเหรียญ ทุกอย่างเป็นการเข้ารหัสสกุลเงิน ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้ได้บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะมีรหัสผ่าน หรืออาจจะเป็นการสแกนลายนิ้วมือ

สกุลเงินบางช่วยให้การซื้อ โอน ธุรกรรมการเงินใด ๆ เป็นเรื่องที่ง่ายอีกทั้ง เราสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินของเราเข้ารหัสลับสำหรับสินค้า หรือบริการ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง « เงินจริง » เงิน (ยูโร ดอลลาร์ ฯลฯ)

ความแข็งแกร่งของ cryptocurrency คือการดำเนินงานในรูปแบบที่ไม่มีการกระจายอำนาจและมีความสามารถในการหลบหนีกฎระเบียบหรือการควบคุมของรัฐบาลหรือสถาบันการเงิน คนรักของสกุลเงินดิจิทัลยังคงเชื่อมั่นเหมือนเดิมว่า ธนาคารพาณิชย์และรัฐต้องการควบคุมทุกอย่าง ทั้งขึ้นภาษี โดยสกุลเงินเสมือนนี้จะช่วยให้เราสามารถหลีกเลี่ยงระบบที่ไม่เป็นธรรมนี้ได้

วิธีทำงาน

ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับธุรกรรมของ cryptocurrency จะถูกเก็บไว้ในเครือข่าย ภายใน blockchain ที่เปรียบเสมือนเป็นหนังสือที่เก็บทุกการป้อนข้อมูล โดยหนังสือที่ว่านี้จะถูกเรียกว่า « Block » ซึ่งเครือข่ายนี้ที่จริงมันทำหน้าที่เป็นธนาคารกลาง แต่ไม่ใช่เป็นศูนย์รวมข้อมูลทั้งหมด

Blockchain เข้าใจง่ายๆคือแสดงรายการทั้งหมดในสมุดบัญชีขนาดใหญ่ที่เรียกว่า « กระดาษสีขาว » ซึ่งสามารถเปิดดูได้โดยผู้ใช้สกุลเงินดิจิตอลทั้งหมด ตามสกุลเงินที่เราซื้อซึ่งมีความโปร่งใสเฉกเช่นเดียวกับ Bitcoin

ตัวระบบเองถือได้ว่ามีความปลอดภัยเป็นอย่างมากต้องขอขอบคุณเทคโนโลยีการเข้ารหัสลับที่สามารถป้องกันการปลอมแปลงได้ ทำให้วิธีเดียวที่จะแก้ไข Blockchain ได้ก็คือจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ใช้ทั้งหมดซึ่งเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

blockchain ไม่ได้ถูกจัดการโดยมนุษย์ แต่เป็นซอฟต์แวร์ « โอเพนซอร์ส » ที่กระจายอยู่ทั่วโลก สิ่งที่เรากำลังพูดถึงก็คือ โหนด ตัวการที่ทำหน้าทที่จัดการระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ เมื่อจำนวนโหนดมีมากขึ้นก็หมายความว่าระบบนี้มีความปลอดภัยมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าแฮ็กเกอร์สามารถโจมตีโหนดได้ แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะแฮกเข้าเครือข่ายทั้งหมด อย่างที่เห็นนี่เป็นการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและการเงินที่ดีที่สุด

การทำเหมืองแร่ของ Cryptocurrency

ในการทำธุรกรรมใน blockchain จะต้องใช้กำลังในการคำนวณและประมวลผล ซึ่งกำลังที่ใช้จะเพิ่มขึ้นตามวิวัฒนาการของสกุลเงินเพื่อที่จะทำให้ cryptocurrency  มีมูลค่ามากขึ้นและหายากมากขึ้นเรื่อย ๆ เปรียบเสมือนการทำเหมืองแร่ในแง่รูปธรรม ประสิทธิภาพการคำนวณของระบบคอมพิวเตอร์ถูกการออกแบบโดยบล็อกชื่อดัง 

เมื่อบล็อกเสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็จะมีการวิเคราะห์ตรวจสอบความถูกต้องเครือข่ายทั้งหมด กระบวนการนี้ทำโดยคอมพิวเตอร์โดยเวลาที่ใช้จะมากหรือน้อยในการแก้ปัญหาขึ้นอยู่กับการคำนวณที่ซับซ้อน การคำนวณเหล่านี้เป็นเรื่องที่ยากมากขึ้นเช่นด้วยกับกระแสความนิยมของสกุลเงินที่เพิ่มขึ้น ยิ่ง cryptocurrency มีชื่อเสียงมากเท่าใดยิ่งดึงดูดนักขุดเหมืองมากขึ้นเท่านั้น แต่กระนั้นเราจะต้องมีวัสดุที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อปกป้องบ่อนทำลายประสิทธิภาพ

น้อยคนนักที่จะรู้ว่าบุคคลทั่วไปก็สามารขุดเหมืองสกุลเงินดิจิตอลได้เช่นเดียวกัน หรือบางส่วนก็เปิดแพลตฟอร์มการทำเหมืองเพื่อให้ตนเองนั้นสามารถเชื่อมโยงเข้ากับระบบประมวณกับนักขุดเหมืองคนอื่นๆ  แน่นอนว่าไม่ว่าจะทำงานในรูปแบบใดคุณก็จะได้รับส่วนแบ่งที่เหมาะสมตามสกุลเงินดิจิตอลที่คุณนั้นถืออยู่

สำหรับ cryptocurrency บางตัว เราสามารถเก็บเกี่ยวได้แม้ในจุดที่มีการจำกัดจำนวนหน่วยการซื้อ เพราะท้ายที่สุดแล้วมันก็จะมี cryptocurrency บางตัวที่ถูกสร้างขึ้นด้วยตัวของมันเองและไม่อนุญาตให้ทำเหมืองแร่ 

cryptocurrency ไทย

Bitcoin รุ่นบุกเบิก

ใน 2552, Satoshi Nakamoto บุคคลที่ไม่มีใครรู้จักตัวตนแน่ชัด,เป็นผู้พัฒนา ตัว Bitcoin ซึ่งเป็น Cryptocurrency ตัวแรกแรกที่ใช้ระบบ blockchain ซึ่งเป็นระบบยอดเยี่ยม ด้วยคอมพิวเตอร์เครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์ทำให้การทำงานของสกุลเงินตัวนี้ผ่านมาได้แบบไม่มีปัญหาทั้งในเรื่องปัญหาจาก ระบบธนาคาร และตลาดหลักทรัพย์ เมื่อมีการล่วงล้ำหรือพยายามเข้าถึงระบบโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตตัวระบบรักษาความปลอดภัยก็จะจัดการโดยทันที เหตุนี้เองทำให้ Bitcoin กลายเป็น สกุลเงินที่น่าสนใจ และหายากมาก

ท้ายที่สุด Bitcoin จะกลายเป็นที่นิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันสามารถทำการซื้อ โอนเงิน หรือธุรกรรมอื่น ๆ โดยไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนหรือที่อยู่ที่แท้จริง

แน่นอนว่าสำหรับในบางกรณียังขาดการตรวจสอบย้อนหลังและขัดต่อกรอบกฎหมาย อีกทั้งยังเป็นการเอื้อประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเครือข่ายอาชญากรที่มองเห็นโอกาสนี้เป็นโอกาสเหมาะสำหรับการฟอกเงิน แม้จะมีเรื่องนี้เป็นข้อพิพาษแต่ก็ยังมีผู้ค้าออนไลน์มากขึ้น และยอมรับ Bitcoin กันมากขึ้นแล้วในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากสกุลเงินนี้ช่วยให้คุณสามารถทำธุรกรรมหรือรับการชำระเงินโดยไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเหมาะสำหรับทุกเว็บไซต์ที่ขายออนไลน์ เพราะโดยปกติแล้ว บริษัทต้องจ่ายเงินเป็นเปอร์เซ็นต์เล็ก ๆ สำหรับธุรกรรมการธนาคารในแต่ละครั้ง แต่ที่นี่ทุกธุรกรรมธนาคารทำงานอย่างเป็นอิสระและเรียบง่าย

ปี 2560 เป็นปีของ Bitcoin ด้วยการยอมรับจากทางรัฐบาล (เพราะไม่มีทางเลือกอื่น) เป็นตัวจุดชนวนกระแสของ Bitcoin ในเดือนมกราคม 2560 มูลค่าของมันกระโจนไปที่ $1000 ดอลลาร์ต่อหน่วย และในช่วงต้นเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ราคาก็พุ่งไปที่ $ 20 000 ดอลลาร์ต่อหน่วย!

Bitcoin จะไปได้ไกลแค่ไหน? เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ได้อย่างแน่ชัด ผู้เชี่ยวชาญบางคนคิดว่ามันจะเกินหนึ่งล้านดอลลาร์ในปี 2020 ในขณะที่บางคนเชื่อว่าสกุลเงินนี้ไม่สามารถได้ใช้งานได้จริงและเป็นเหมือนฟองที่กำลังจะแตกในเร็ว ๆ นี้

วิธีสั่งซื้อ cryptocurrency

ขณะนี้มีหลายแพลตฟอร์มเกิดขึ้นเพื่อใช้ซื้อ cryptocurrency ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ดังนั้นแน่นอนว่ามันมีจำนวนที่เพียงพอที่จะเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเช่น CoinBase หรือ Kraken ตัวอย่างเช่นเพื่อกรอกข้อมูลลงในไฟล์การลงทะเบียนเพื่อทำตามขั้นตอนในการตรวจสอบบัญชีบางครั้งทำได้ด้วยการส่งสำเนาเอกสาร บัตรประจำตัวและแค่เพียงจัดการให้เครดิตบัญชีของคุณอยู่ในสกุลเงินยูโรเพื่อใช้แลกเปลี่ยนกับสกุลเงิน cryptocurrency สกุลต่างๆ

มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับ Ethereum หรือ Bitcoin บางครั้งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับ Monero, Dash หรือสกุลเงินเสมือนที่แปลกใหม่กว่านี้ ในกรณีนี้เราต้องหันไปใช้แพลตฟอร์มที่มีหลายสกุลเช่น Poloniex หรือ HitBTC ที่อนุญาตให้มีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลเท่านั้น ดังนั้นการซื้อขายจึงจะมาพร้อมกับ Bitcoins หรือ Litecoins ได้บนแพลตฟอร์มอื่นและแลกเปลี่ยนกับ cryptocurrency ที่คุณเลือก

ที่จริงมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย และแต่ละเว็บไซต์จะช่วยบอกคุณให้ทำตามทีละขั้นตอนเพื่อให้คุณสามารถเปิดบัญชี และทำการซื้อขายของคุณได้อย่างง่ายดายที่สุดในโลก

การพัฒนาทางเทคโนโลยี และการเงิน

หลังจาก Bitcoin เกิด ก็มี cryptocurrency ตัวอื่นๆเกิดขึ้นอีกมากมาย  และวันนี้มีสกุลเงินดิจิทัลที่แตกต่างกันมากกว่า 1000 สกุลเงิน Bitcoin เป็นตัวที่สร้างแรงบันดาลใจหรือเป็นแม้แบบที่ใช้โคลนของสกุลเงินตัวอื่นๆ และในแต่ละสกุลเงินก็มีการทำงานกับโปรโตคอลของตัวเอง

มันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องเดิมพันกับม้าที่ดี  แต่ blockchain และการเข้ารหัสจะช่วยให้สามารถสร้างสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งมีมูลค่าที่แท้จริงและไม่สามารถทำซ้ำได้ บาง Cryptocurrency  มีบริการเพิ่มเติมด้วยการเข้ารหัสข้อมูลสำหรับ anonymity ได้ทั้งหมด หรือความสามารถในการบล็อกเหมืองก็ทำได้รวดเร็วมากขึ้นและทำให้การทำธุรกรรมทำได้เกือบจะในทันที

ในวันนี้ วันที่ความบ้าคลั่งได้ครอบครองโลกของอินเอร์เน็ต คุณจะต้องคิดว่านี่มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆถ้าคุณได้เห็นว่ามี cryptocurrency มากกว่า 6,000 แห่งเกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อทำการค้าสกุลเงินเสมือนและเงินทุนโดยรวมของ cryptocurrency ทั้งหมดเกิน 165000000000 $ ดังนั้นนี่จึงเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากปีต่อปี

สรุปใจความสำคัญ

สกุลเงินดิจิทัลจะแทนที่สกุลเงินดั้งเดิมหรือไม่? ยากที่จะให้คำตอบ อันที่จริงแล้วแต่ละสกุลเงินมีคุณสมบัติและข้อบกพร่องของตัวเอง อย่างเช่นเงินดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะสูญเสียมูลค่าเช่นเดียวกับเงินยูโรเพราะจะต้องทำการพิมพ์ธนบัตรเมื่อมีความจำเป็น

ในทางกลับกัน Cryptocurrency มักมีการจำกัดจำนวนหน่วย ซึ่งมีผลทำให้หายากมากขึ้นและทำให้ราคาของมันเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น Bitcoin ได้มีการเผยแพร่ออกมาเป็นระยะ ๆ แต่จะแบ่งการผลิตออกเป็น 2 ภาคทุกๆ 4 ปีและในปี 2140 โปรโตคอลได้รับการออกแบบเพื่อให้รับปริมาณ Bitcoinได้สูงสุด ทำให้นี่เป็นมูลค่าการลงทุนทางเศรษฐกิจดีมาก

ในขณะที่เรารู้ว่าสกุลเงินเสมือนนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นทำไมเราถึงไม่คว้าโอกาสโดยการใช้มันและถือมันไว้รอจังหวะและโอกาสที่จะขึ้นราคาทำให้มันเกิดประโยชน์มากที่สุด ดังนั้นถ้าเราไม่ใช้จ่ายเศรษฐกิจก็จะหยุดลง นั่นคือสาเหตุที่เราเห็นกันอยู่ในขณะนี้ว่า cryptocurrency กำลังจะแทนที่สกุลเงินดั้งเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่หลังจากที่สามารถปรับนดยบายหรือวัตถุประสงค์ทางการเมืองและสังคมได้ ในทางปฏิบัติ Cryptocurrency จะตอบสนองต่อกฎของอุปสงค์และอุปทานเท่านั้น

ไม่ว่าจะยังไง ราคาและมูลค่าของเงินดิจิตอลจะคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและ บริษัท ต่างๆจะยอมรับ Bitcoins มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากในสกุลเงินประเภทนี้ หากจำเป็นต้องมีหลักฐานเพิ่มเติมว่า cryptocurrency เป็นปรากฏการณ์ที่สุ่มเสี่ยง มันก็เพียงพอที่จะฟังประธาน IMF, Christine Lagarde ที่ได้กล่าวไว้ว่า »cryptocurrency สามารถลบระบบธนาคารและมีความสามารถมากกว่าสกุลเงินธรรมดา »  สำหรับผู้ที่ยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความสุ่มเสี่ยงของทางเลือกนี้ … อันที่จริงแล้วมันก็ไม่มีข้ออ้างใดๆที่จะไม่ลองกระโดดมาลงทุนกับมันดูสักตั้ง!